เครื่องเติมอากาศในบ้าน สำคัญมากในช่วงวันหยุดยาวหรือเทศกาลสำคัญ ที่มักเป็นโอกาสที่ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากัน การที่มีสมาชิกหลายคนอยู่ร่วมกันในพื้นที่จำกัดเป็นเวลานานๆ ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพอากาศภายในบ้าน บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของเครื่องเติมอากาศในบ้าน และวิธีการจัดการคุณภาพอากาศเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด กับคนจำนวนมาก
ผลกระทบต่อคุณภาพอากาศเมื่อมีคนอยู่รวมกันในบ้านช่วงหยุดยาว
เมื่อมีคนจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ปิด จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อคุณภาพอากาศที่เรามองไม่เห็นได้หลายรูปแบบ แต่ได้มีการเก็บผล และสรุปผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นออกมาได้ ดังนี้- ระดับคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสูงขึ้นจากการหายใจของทุกคน
- ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้นจากการประกอบอาหาร อาบน้ำ และกิจกรรมอื่นๆ
- การสะสมของกลิ่นไม่พึงประสงค์จากการปรุงอาหารและกิจกรรมต่างๆ
- การเพิ่มขึ้นของฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้
- โอกาสในการแพร่กระจายของเชื้อโรคทางอากาศมีมากขึ้น
ทำไมเครื่องเติมอากาศจึงสำคัญในช่วงที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก
ระบบเติมอากาศมีบทบาทสำคัญในการรักษาคุณภาพอากาศภายในบ้าน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีผู้อาศัยจำนวนมาก อาจทำให้สภาพแวดล้อม และสภาพอากาศที่มองไม่เห็น เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการใช้เครื่องเติมอากาศจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้นได้ผ่านกระบวนการ ดังนี้1. ลดการสะสมของมลพิษและเชื้อโรค
การนำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก เข้ามาในบ้านอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเจือจางความเข้มข้นของมลพิษและเชื้อโรคที่อาจสะสมในอากาศภายในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องฟอกอากาศแรงดันบวก จะช่วยสร้างระบบบ้านแรงดันบวกที่ทำให้อากาศสะอาดถูกดันเข้าบ้านแทนที่อากาศเสีย จากการศึกษาของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าการมีระบบระบายอากาศที่ดีสามารถลดความเข้มข้นของสารมลพิษในอาคารได้ถึง 30-60%2. เพิ่มออกซิเจนและลดคาร์บอนไดออกไซด์
หนึ่งในประโยชน์หลักของเครื่องเติมออกซิเจนในบ้านคือการเพิ่มปริมาณออกซิเจน และลดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการหายใจของผู้อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วงซึม และมีสมาธิดีขึ้น เพราะมีออกซิเจนหมุนวนเพียงพออยู่ภายในบ้าน3. ควบคุมความชื้น
ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยควบคุมระดับความชื้นในบ้าน ป้องกันการเกิดเชื้อราและไรฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการภูมิแพ้และโรคหอบหืด
เครื่องเติมอากาศในบ้าน ที่เหมาะสมกับสถานการณ์มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก
เมื่อต้องเลือกเครื่องเติมอากาศในบ้าน ยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาประเภทของระบบที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะในการใช้งาน หากเป็นการใช้งานภายในบ้านที่มีคนจำนวนมากอยู่รวมกัน ขอแนะนำดังนี้1. ระบบ ERV (Energy Recovery Fan)
เครื่องเติมอากาศ ERV เป็นระบบที่ไม่เพียงนำอากาศใหม่เข้ามาในบ้าน แต่ยังสามารถถ่ายเทความร้อนและความชื้นระหว่างอากาศที่เข้าและออก ช่วยประหยัดพลังงานในการปรับอากาศ เหมาะสำหรับบ้านที่ใช้เครื่องปรับอากาศเป็นประจำ วิธีนี้สามารถช่วยประหยัดพลังงานในการปรับอากาศได้ถึง 30%2. ระบบเติมอากาศแบบกรอง (Filtered Fresh Air Systems)
อีกหนึ่งระบบที่จะนำอากาศจากภายนอกเข้ามาภายใน ผ่านตัวกรองคุณภาพสูง เพื่อกำจัดมลพิษ ฝุ่นละออง และสารก่อภูมิแพ้ ก่อนที่จะกระจายอากาศบริสุทธิ์ไปทั่วบ้าน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีมลพิษภายนอกสูง หรือในช่วงที่มีปัญหาฝุ่น PM2.53. ระบบแรงดันบวก (Positive Pressure Systems)
เครื่องสร้างแรงดันบวกจะสร้างแรงดันภายในบ้านให้สูงกว่าภายนอก ทำให้อากาศสะอาดไหลเข้าแทนที่อากาศเสีย ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นและมลพิษจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาตามรอยรั่ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับช่วงที่มีมลพิษภายนอกสูงเครื่องเติมอากาศในบ้าน เลือกยี่ห้อไหนดี
การเลือกซื้อ เครื่องเติมอากาศในบ้าน ควรพิจารณาจากรูปแบบการใช้งานจริง ควรสัมพันธ์กับรูปแบบการของห้อง และสภาพอากาศ เช่น เครื่องเติมอากาศขนาดใหญ่ จะช่วยให้อากาศเข้าได้มากกว่า แต่ก็อาจเกินความจำเป็นมากเกินไป หากคุณใช้ในห้องขนาดเล็ก การเลือกเครื่องเติมอากาศนอกจากจะช่วยให้การกรองมีประสิทธิภาพ ยังช่วยให้ประหยัดงบประมาณที่เกินจำเป็นได้อีกด้วย ปัจจัยที่ควรนำไปพิจารณามีดังนี้- ขนาดและกำลังของเครื่อง – เลือกเครื่องที่มีกำลังเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ใช้งาน (คำนวณจากปริมาตรห้องหรือบ้าน)
- ประสิทธิภาพการกรอง – เครื่องควรสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็ก โดยเฉพาะ PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระดับเสียงขณะทำงาน – โดยเฉพาะสำหรับห้องนอน ควรเลือกรุ่นที่ทำงานเงียบ
- การบำรุงรักษา – ความสะดวกในการเปลี่ยนไส้กรองและทำความสะอาด
- การประหยัดพลังงาน – เลือกเครื่องที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- ฟังก์ชันพิเศษ – เช่น การควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน เซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องเติมอากาศในช่วงวันหยุดยาว
นอกจากวิธีการติดตั้งระบบเติมอากาศภายในบ้าน ยังมีวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศในบ้านช่วงที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ช่วยให้การเติมอากาศง่าย และเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้- จัดตำแหน่งการวางเครื่องให้เหมาะสม – วางในตำแหน่งที่อากาศสามารถกระจายได้ทั่วถึง ไม่มีสิ่งกีดขวาง
- ติดตั้งพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำและห้องครัว – เพื่อดึงอากาศที่มีความชื้นและกลิ่นออกโดยตรง
- ทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด – เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- เปิดหน้าต่างระบายอากาศเป็นระยะ – แม้ในวันที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ควรเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที
- ควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ – เช่น การประกอบอาหารที่มีควันมาก ควรเปิดเครื่องดูดควันและเปิดหน้าต่างเพิ่มเติม