Blog
เครื่องฟอกอากาศ คุ้มจริงหรือแค่เปลืองไฟ? รีวิวเจาะลึกก่อนตัดสินใจซื้อ

ทุกวันนี้การเริ่มต้นวันด้วยการเปิดแอพวัดค่าฝุ่น pm 2.5 เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศกลายเป็นเรื่องปกติ หลายคนต้องกังวลกับตัวเลขค่าฝุ่นวันนี้ที่สูงจนน่าตกใจ และนั่นทำให้เราต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นในห้องเยอะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนเกิดคำถามว่าฝุ่นในห้องมาจากไหน ทั้งที่ปิดประตูหน้าต่างสนิทดีแล้วก็ตาม ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ทำให้หลายคนมีอาการภูมิแพ้อากาศ เช่น แสบจมูก หายใจไม่ออก หรือรุนแรงถึงขั้นแน่นจมูก หายใจไม่สะดวก ซึ่งวิธีแก้ที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกคือการหา เครื่องดักจับฝุ่นในห้อง หรือ เครื่องฟอกอากาศ มาใช้งาน
แต่เครื่องฟอกอากาศใช่คำตอบสุดท้ายจริงหรือ? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่าระหว่างการใช้เครื่องกรองฝุ่นทั่วไป กับนวัตกรรมอย่าง “ระบบเติมอากาศแรงดันบวก” แบบไหนคือตัวแก้ปัญหาแบบครบ จบสำหรับปัญหาภูมิแพ้อากาศ และช่วยยกระดับคุณภาพอากาศ ในบ้านได้ดีมากกว่ากัน
เปิดเครื่องฟอกอากาศทั้งวัน เปลืองไฟไหม?

ก่อนจะไปถึงข้อจำกัดด้านอื่น เรามาตอบคำถามยอดฮิตเรื่องค่าไฟกันก่อน ความจริงแล้วเครื่องฟอกอากาศสมัยใหม่ โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน ที่ออกแบบมาให้ทำงานเงียบและประหยัดพลังงานนั้น ใช้กำลังไฟน้อยกว่าที่คิด โดยเฉลี่ยแล้วค่าไฟต่อเดือนอาจอยู่ที่หลักสิบถึงหลักร้อยต้นๆ เท่านั้น หากลองคำนวณค่าไฟง่ายๆ ตามสูตรการคำนวณ (กำลังวัตต์ของเครื่อง / 1000) x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ x อัตราค่าไฟต่อหน่วย จะได้ดังนี้
- เครื่องฟอกอากาศกำลังไฟ 50 วัตต์ เปิดใช้งานวันละ 10 ชั่วโมง
- อัตราค่าไฟ (เฉลี่ย) หน่วยละ 4.5 บาท
- ค่าไฟต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 67.5 บาทเท่านั้น
ดังนั้นประเด็นเรื่องค่าไฟจึงอาจไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาต่างหาก เพราะแม้จะเปิดเครื่องเพื่อกรองฝุ่นตลอดเวลา แต่ทำไมหลายคนยังคงมีอาการภูมิแพ้ และต้องหาวิธีรักษาภูมิแพ้ด้วยตัวเองอยู่เรื่อยๆ
ข้อจำกัดของเครื่องฟอกอากาศในการทำงานแบบ "ระบบปิด"
หัวใจการทำงานของเครื่องฟอกอากาศคือการ “ดูดอากาศภายในห้อง มากรอง แล้วปล่อยกลับเข้าไปใหม่” ซึ่งการหมุนเวียนอากาศเก่าในระบบปิดนี้ ก่อให้เกิดปัญหาสำคัญ 2 ประการดังนี้
- ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สะสมตัว คือ เมื่อเราหายใจ ปริมาณ CO₂ ในห้องจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น และทำให้คนแพ้อากาศรู้สึกอึดอัดกว่าเดิม
- ป้องกันฝุ่นใหม่ไม่ได้ 100% เพราะอากาศและฝุ่น PM2.5 จากภายนอกยังคงเล็ดลอดเข้ามาได้เสมอ ทำให้เครื่องฟอกอากาศเป็นเพียงวิธีลดฝุ่นในห้องที่ปลายเหตุเท่านั้น
รู้จัก 'ระบบเติมอากาศแรงดันบวก' นวัตกรรมเพื่ออากาศที่สะอาด
ระบบเติมอากาศแรงดันบวก (Positive Air Pressure System) คือเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคารให้ดีขึ้น โดยมีหลักการทำงานที่แตกต่างจากเครื่องฟอกอากาศ
โดยหลักการทำงานของระบบจะ “ดูดอากาศจากภายนอก” เข้ามาผ่านชุดฟิลเตอร์ประสิทธิภาพ เพื่อดักจับทั้งฝุ่น PM2.5 เชื้อโรค และมลพิษต่างๆ จากนั้นเครื่องจะทำการ “เติมอากาศบริสุทธิ์” นั้นเข้าสู่ตัวบ้านอย่างต่อเนื่อง ทำให้อากาศภายในบ้านมีแรงดันสูงกว่าภายนอกเล็กน้อย หรือที่เรียกว่า สภาวะแรงดันบวก (Positive Pressure)
แรงดันนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือน “ม่านอากาศ” ที่มองไม่เห็น คอย “ผลัก” อากาศเก่าที่มี CO₂ สะสมและฝุ่นที่อาจตกค้างให้ไหลซึมออกตามรอยต่อต่างๆ ของบ้าน และที่สำคัญคือ “ป้องกัน” ไม่ให้อากาศสกปรกและฝุ่น PM2.5 จากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาได้อีกด้วยนั่นเอง
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง เครื่องฟอกอากาศ vs ระบบเติมอากาศแรงดันบวก
คุณสมบัติ |
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) |
ระบบเติมอากาศแรงดันบวก (Positive Pressure) |
---|---|---|
หลักการทำงาน |
หมุนเวียนอากาศเก่า ภายในห้องเพื่อกรองฝุ่น |
เติมอากาศใหม่ จากภายนอกที่กรองสะอาดแล้ว |
การป้องกันฝุ่น PM2.5 |
กรองฝุ่นที่เข้ามาในห้องแล้ว |
ป้องกันฝุ่นใหม่ ไม่ให้เข้ามาในห้องตั้งแต่ต้น |
ระดับ CO₂ |
CO₂ จากการหายใจ สะสมสูงขึ้นเรื่อยๆ |
ดัน CO₂ เก่าออกไป พร้อมเติมอากาศบริสุทธิ์เข้ามา |
คุณภาพอากาศ |
ได้อากาศที่ฝุ่นน้อยลง แต่ออกซิเจนเท่าเดิม และ CO₂ สูง |
ได้ทั้งอากาศสะอาด ออกซิเจนสูง และ CO₂ ต่ำ |
ภาพรวม |
เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ |
เป็นการป้องกันและแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ |
การติดตั้ง |
ใช้งานง่าย เสียบปลั๊กได้เลย |
ต้องติดตั้งโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ |
เลือกแบรนด์ระบบเติมอากาศแรงดันบวกอย่างไรดี?
ปัจจุบันในตลาดมีผู้ให้บริการระบบเติมอากาศแรงดันบวกหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีเทคโนโลยีและจุดเด่นที่น่าสนใจต่างกัน การเลือกจึงควรพิจารณาจากประสิทธิภาพของระบบการกรอง ความน่าเชื่อถือ และบริการหลังการขาย ตัวอย่างแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในตลาด เช่น
- Freshnergy โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีและทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบระบบให้เหมาะสมกับบ้านแต่ละหลัง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- CAP PLUS เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เน้นการสร้างสภาวะแรงดันบวกเพื่อป้องกันฝุ่นและลด CO2 ภายในบ้าน
- SCG Active AIR Quality ระบบจากแบรนด์ใหญ่ที่น่าเชื่อถือ มาพร้อมกับแผ่นกรอง HEPA คุณภาพสูง
เครื่องฟอกอากาศ อาจเป็นตัวเลือกที่เพียงพอ สำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็ก หรือเป็นเพียงวิธีลดฝุ่นในห้องเบื้องต้น แต่ไม่ใช่ตัวจบของปัญหาสำหรับคนเป็นภูมิแพ้
แต่หากคุณและครอบครัวต้องเจอปัญหาฝุ่นในห้องเยอะอยู่เสมอ และเบื่อกับอาการภูมิแพ้อากาศที่รบกวนการใช้ชีวิต การลงทุนในระบบเติมอากาศแรงดันบวก อาจเป็นคำตอบที่คุ้มค่ามากกว่า เพราะถือเป็นวิธีรักษาภูมิแพ้ด้วยตัวเองที่ดีที่สุด Freshnergy พร้อมเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและออกแบบระบบให้เหมาะสมกับบ้านของคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกพื้นที่ในบ้านจะถูกปกป้องด้วยอากาศที่สะอาดนั่นเอง
Related Posts
ภูมิแพ้ฝุ่น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เช็ควิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
-
Posted by
Editor
- 0 comments
เครื่องกรองฝุ่น คุ้มจริงหรือแค่เปลืองไฟ? รีวิวเจาะลึกก่อนตัดสินใจซื้อ
-
Posted by
Editor
- 0 comments
หายใจไม่โล่ง? เปิดต้นตอ ฝุ่นในห้องเยอะ
-
Posted by
Editor
- 0 comments
ภูมิแพ้อากาศรักษาได้ ไม่ต้องใช้ยา! เช็กลิสต์วิธีแก้แบบธรรมชาติ
-
Posted by
Editor
- 0 comments
5 วิธีจัดการอากาศในบ้าน ลดอาการภูมิแพ้หน้าฝนให้อยู่หมัด
-
Posted by
Editor
- 0 comments
ฝุ่น pm 2.5 เกิดจากอะไร ไขข้อสงสัย ฝนตกค่าฝุ่นลดลงจริงหรือไม่ ?
-
Posted by
Editor
- 0 comments
เลี้ยงแมวในห้องยังไง ไม่ให้มีกลิ่นเหม็น พร้อม 5 วิธีจัดการกลิ่น
-
Posted by
Editor
- 0 comments
ติดตั้งเครื่องเติมอากาศ vs เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี
-
Posted by
Editor
- 0 comments
วิธีดับกลิ่นเหม็นในบ้าน ด้วยระบบเติมอากาศแรงดันบวก
-
Posted by
Editor
- 0 comments
เลือกเครื่องเติมอากาศในบ้าน ลดกลิ่นอับในห้อง เลือกแบบไหนดี?
-
Posted by
Editor
- 0 comments
กลิ่นห้องอับในที่ทำงาน จัดการได้ด้วยเครื่องเติมอากาศแรงดันบวก
-
Posted by
Editor
- 0 comments
ลดง่วง สมาธิสั้น พนักงานทำงานดีขึ้น ติดตั้งเครื่องเติมอากาศแรงดันบวก
-
Posted by
Editor
- 0 comments